ชื่อโครงการ: "1 กระถาง 1 ตารางวา แปลงหญ้า-ดาดฟ้า เป็นนาข้าว"
ความเป็นมา:
หลังจากเมื่อปลายปี 2554 จนถึงตลอดปี 2555 ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือเกษตรกรซึ่งเป็นผู้ประสบภัยพิบัติ โดยเราได้มีการประสานงานช่วยเหลือทั้งในระหว่างที่ประสบอุทกภัย และกลับมาสนับสนุนการปลูกข้าวด้วยวิธีเกษตรอินทรีย์ ให้กับผู้ประสบภัยในระยะฟื้นฟู ด้วยเงินบริจาคจากทั้งผู้ช่วยบริจาคและการสนับสนุนหลักจากกลุ่มชาวต่างชาติ BangkokVanguard พบว่า โครงการประสบความสำเร็จในด้านปริมาณผลผลิต แต่กลับล้มเหลวในด้านสภาวะสังคมชุมชน ที่เกษตรกรส่วนใหญ่ไม่มีความซื่อสัตย์ต่อตนเอง และต่อส่วนรวม และเราไม่แปลกใจที่เกษตรกรยังคงวนเวียนอยู่กับภาระหนี้สิน และความเชื่อ หรือวัฒนธรรมผิดๆ ที่ยังคงใช้สารเคมี
สิ่งที่สำคัญต่อมา คือ เกษตรกรไม่สามารถที่จะทำการตลาดได้เอง อาศัยแต่การผลิตข้าวส่งโรงสี เปรียบเสมือนพึ่งการส่งออก 100% ไปที่โรงสี ไม่สีข้าวกินเอง เพราะรู้ว่าใช้สารเคมีมาก เราจึงทำการตลาดด้วยการสร้างแบรนด์ "ปันสุข" และสำหรับการจำหน่ายข้าวไรซ์เบอรี่ ก็ได้สร้างซับแบรนด์ "ข้าวปันสุข" ขึ้นมา และจะทำการตลาดเฉพาะข้าวอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี เท่านั้น เพื่อหวังว่าจะเป็นทางออกให้เกษตรกร เป็นตัวอย่างให้เกษตรกรเห็นว่าสามารถแบ่งส่วนผลผลิตมาจำหน่ายเองได้บ้าง และเรายังสนับสนุนให้เกษตรกรสีข้าวกินเอง เพราะสบายใจแล้วที่ใช้วิธีเกษตรอินทรีย์ ปลอดสารพิษ
และในโครงการเก่า เราเคยมีคุยกับเกษตรกรไว้ว่าให้ช่วยบริจาคข้าวไร่ละ 1 ถัง เพื่อนำข้าวเปลือกไปสีข้าว และนำข้าวที่สีแล้วไปบริจาคให้กับเด็กกำพร้าที่ติดเชื้อเอดส์ ปรากฏว่าไม่สำเร็จ ดังนั้นในปีนี้ เราจึงลดระดับเชิงปริมาณของเกษตรกรที่มาร่วมโครงการลดลง หันมาทำโครงการเชิงคุณภาพ โดยยังคงรับเกษตรกรเข้าร่วมเช่นเดิม ตามโครงการ "ถุงยังชีพถาวร เพื่อการฟื้นฟูอาชีพผู้ประสบภัย" ในการทำนาข้าวไรซ์เบอรี่ และทำโครงการด้านการตลาดชื่อ โครงการจำหน่าย "ข้าวปันสุข" เพื่อตั้งโรงสีข้าวชุมชน และหาแนวร่วมของคนเมืองที่ก็สามารถช่วยเหลือเกษตรกร และเด็กกำพร้าได้เช่นกัน มีชื่อโครงการเต็มว่า โครงการ "1 กระถาง 1 ตารางวา แปลงหญ้า-ดาดฟ้า เป็นนาข้าว" ตามวัตถุประสงค์ดังนี้
วัตถุประสงค์โครงการ:
- เพื่อหาแนวร่วมในการให้ความสำคัญการบริโภคข้าวปลอดสารพิษของคนเมือง เป็นการแสดงออกให้เกษตรกรทราบว่า ผู้บริโภคต้องการทานข้าว ที่ปลอดสารเคมี
- เพื่อให้ผู้บริโภค (คนเมือง) ได้มีความเข้าใจถึงความอดทน ความตั้งใจ ของเกษตรกรที่ต้องปลูกข้าวก่อนเก็บเกี่ยวถึง 4 เดือน อย่างมีอรรถรส
- เพื่อให้อาจเป็นการขยายฐานการบริโภคข้าวปลอดสารเคมีกับกลุ่มผู้บริโภคโดยตรง
- เพื่อเป็นการสร้างกระแสสังคม เชื่อมโยงชนบท กับเมืองเข้าด้วยกัน ตามบริบทของคนเมืองที่สามารถทำได้ และหวังว่าเกษตรกรชนบทจะเข้าใจถึงความรู้สึก ความต้องการ ของคนเมืองที่ต้องการทานข้าวที่ปลอดภัย
- เพื่อนำข้าวเปลือกที่ได้ ไปสีข้าว แล้วร่วมกันบริจาคให้กับเด็กกำพร้า ที่ติดเชื้อเอดส์ (วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2556 นี้ ผมจะไปเยี่ยมบ้านรอเลนโซ ชลบุรี ครับ) เป็นการช่วยเหลือสังคมอีกทางหนึ่ง
การดำเนินงาน:
- ศึกษารายละเอียดจากผู้รู้ ในการปลูกข้าวในกระถาง
- เตรียมการอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แล้วจัดให้เป็นชุดสำเร็จรูป พร้อมจัดทำคู่มือการปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ ในกระถาง
- แจกจ่ายอุปกรณ์ในการร่วมโครงการ
- ทดลองปลูกร่วมกัน (ผมเองก็จะปลูกด้วย ถึงจะเสี่ยงก็เถอะ เพราะที่บ้านมีแมวเหมียวด้วยครับ แต่จะกันพื้นที่ไว้ครับ)
- ติดต่อบริษัทที่มีอาคารสูง และบ้านเดี่ยวในหมู่บ้าน และคอนโดมีเนี่ยต่างๆ
- ประชาสัมพันธ์ออกไปทาง Social Media ต่างๆ
- เมื่อเก็บเกี่ยวแล้ว วางแผนทำกิจกรรมร่วมกันในการนำข้าวมารวมกัน และเดินทางไปรับ หรือส่งมาทางไปรษณีย์
- นำข้าวที่ได้ไปสีข้าว
- นำข้าวสารไปมอบให้เด็กกำพร้า ที่ติดเชื้อเอดส์ โดยจะมีการสอบถามจากสมาชิกที่ร่วมโครงการว่า ต้องการไปร่วมกิจกรรมด้วยหรือไม่
- ทำโครงการต่อเนื่องนำร่องจนถึงสิ้นปี และปีต่อๆ ไปครับ
ระยะเวลาดำเนินการ:
- ระยะที่ 1: ตลอดปี 2556 เพื่อลองผิด ลองถูก และหาแนวทางสรุป
- ระยะที่ 2: ตลอดชีพ ของชีวิตของผมที่ยังเหลืออยู่ครับ
ข้อกำหนดของการร่วมโครงการ:
สำหรับทาวน์เฮ้าส์ หรือคอนโดมิเนี่ย ห้องชุด อพารต์เมนต์ต่างๆ:
- ลงทะเบียนร่วมโครงการที่ลิงก์นี้ครับ http://changetopaddy.blogspot.com/p/blog-page_10.html
- รอทางเราติดต่อกลับ เนื่องจากต้องวางแผนการจัดส่ง เนื่องจากผู้ดำเนินโครงการออกทุนเอง ในเรื่องการจัดส่งอุปกรณ์
- ควรร่วมโครงการ 1-5 กระถางก็พอ เนื่องจากมีพื้นที่น้อย
- ไม่ควรมีสัตว์เลี้ยง ยกเว้นตั้งใจมากๆ และสามารถกันพื้นที่ได้ เนื่องจากพอข้าวออกรวง คงสนุกสนานที่แมวเหมียวจะมาเขี่ยเล่น และสนุนสนานสำหรับหมาน้อยที่จะมาขย้ำเล่นครับ
- ทำตามคู่มือ ที่มีระยะเวลากำหนดเอาไว้ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อปริมาณผลผลิตที่มาก และจะนำไปบริจาคให้เด็กกำพร้าติดเชื้อเอดส์ร่วมกัน
- หลังเก็บเกี่ยว รอการนัดหมายในรอบ 2 เดือน เพราะต้องเก็บข้าวเปลือกให้เมล็ดแข็งตัวก่อน
สำหรับบ้านเดี่ยว ที่มีพื้นที่วางกระถางเป็น 2 ลักษณะคือ วางกระจาย หรือเป็นกลุ่ม หรือเป็นแถว:
เหมือนกันทุกข้อ ยกเว้นข้อ 3. ควรร่วมโครงการระหว่าง 10-50 กรถาง โดยเราจะกำหนดไว้ว่า 1 ตารางวา = 25 กระถาง โดยวางห่างกันอย่างน้อย 50 เซนติเมตร
สำหรับดาดฟ้า บนอาคารพาณิชย์ หรือ บนอาคารสูงในเขต กทม.:
เหมือนกันทุกข้อ ยกเว้นข้อ 3. ควรร่วมโครงการตั้งแต่ 1 ตารางวาขึ้นไ แต่ไม่เกิน 4 ตารางวา เนื่องจากเกรงว่าจะเยอะเกินไป แล้วอาจจะมีปัญหาเรื่องการดูแล การให้น้ำ ที่จะมากเกินไป
ค่าใช้จ่าย:
เนื่องจากเป็นโครงการที่ลงมือทำขึ้นมากันเอง ไม่มีภาครัฐ หรือภาคเอกชนที่สนับสนุน จึงมีต้นทุนค่าใช้จ่ายของอุปกรณ์ต่าง เช่น กระถาง ถาดรอง ดินผสม เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยอินทรีย์ ขวดพลาสติกบรรรจุปุ๋ยน้ำ เอกสารที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น ซึ่งรวมแล้วประมาณ กระถางละ 45 บาท ดังนั้น
- หากผู้ร่วมโครงการต้องการปลูก 5 กระถาง ในวันที่นำอุปกรณ์ไปส่ง ต้องช่วยเรื่องต้นทุนกับทางโครงการเป็นเงิน 225 บาท
- 10 กระถาง เป็นเงิน 450 บาท
- 1 ตารางวา = 25 กระถาง เป็นเงิน 1,125 บาท เป็นต้น
โดยที่ทางเราจะออกค่าใช้จ่ายในการขนส่ง เดินทางเอง ถือว่าทำกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมกันครับ สามารถดูต้นทุนการคิดค่าใช้จ่ายของ 1 กระถาง ได้ที่ลิงก์นี้ครับ http://changetopaddy.blogspot.com/2013/03/3.html
เมื่อท่านสนใจร่วมโครงการแล้ว
ก็กดลิงก์ลงทะเบียนได้เลยนะครับ
หากกดลิงก์ไม่ได้ กรุณากดลิงก์ข้างล่างนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น